
จากการวิจัยของ McKinsey พบว่า กว่า 70% ขององค์กรที่ใช้เอไอแล้วยังล้มเหลว เพราะขาด AI Decision-Making Framework ที่ชัดเจนในการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อเครื่องมือเอไอเท่านั้น
📌 ทำไม “กรอบการตัดสินใจ” สำคัญกว่า “เครื่องมือ AI”
แม้หลายองค์กรลงทุนด้าน AI เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถนำมาใช้ตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพได้ เพราะขาด “กรอบการตัดสินใจที่เป็นระบบ” ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง
🎯 ทำความรู้จัก A.I.M.E.D Framework™
A.I.M.E.D Framework คือแนวทางการนำ AI ไปใช้ในการตัดสินใจธุรกิจอย่างเป็นขั้นตอน ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานหลุดพ้นจากการถูกข้อมูลถล่มโดยไม่มีกรอบที่ชัดเจน
🔍 5 ขั้นตอนของ A.I.M.E.D™
1️⃣ Anticipate (คาดการณ์ปัญหาก่อน)
เริ่มด้วยการตั้งคำถามเฉพาะเจาะจง เช่น “ทำไมยอดขายสินค้าตก 15% เดือนที่แล้ว” เพื่อให้ AI ให้คำตอบที่ตรงจุด
2️⃣ Integrate (รวมข้อมูลและโมเดลให้ทำงานร่วมกัน)
รวมข้อมูลจาก ERP, CRM, Excel, PDF โดยใช้เทคนิค RAG ให้ AI สนทนากับเอกสารได้ ใช้ GPT-4 หรือ Claude ได้ตามความเหมาะสม
3️⃣ Measure (วัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน)
กำหนด KPI 3 เรื่องหลัก: Accuracy, Speed, และ Value เพื่อพิสูจน์ ROI ของการใช้ AI
4️⃣ Execute (เปลี่ยนข้อมูลเป็นการตัดสินใจจริง)
เปลี่ยนคำตอบจาก AI ให้เป็นการตัดสินใจผ่านระบบ เช่น ออกใบสั่งซื้ออัตโนมัติ หรือใช้ร่วมกับ ERP/CRM โดยตรง
5️⃣ Develop (พัฒนาความสามารถ AI ต่อเนื่อง)
อบรม Prompt Engineering, อัปเดต Governance และแชร์ประสบการณ์ในทีมเพื่อพัฒนาระบบต่อเนื่อง
ทำไมองค์กรยุคใหม่ควรใช้แนวทางนี้?
องค์กรที่เริ่มใช้แนวคิดนี้จะได้เปรียบทั้งด้านความเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการวัดผล โดยไม่จำเป็นต้องมีทีม Data Scientist ขนาดใหญ่
🚀 JIB AI — ผู้ช่วยขับเคลื่อน AI Decision-Making Framework ในองค์กรไทย
JIB AI คือแพลตฟอร์มที่รวม ChatGPT, Claude, Gemini ในจอเดียว พร้อมฟีเจอร์ Pool Token ลดต้นทุนการใช้งาน AI กว่า 90%
มีระบบ Governance, Audit Trail และการกำหนดสิทธิ์ที่เหมาะกับองค์กรทุกขนาด
📌 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ JIB AI
📌 ติดตามอัปเดตของเราได้ที่ Facebook JIB AI